วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

การปลูกไม้ประดับ


หมากนวลลักษณะทั่วไป : หมากนวลนี้เป็นปาล์มขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 15-20 ฟุต มีใบรูปขนนก สีเขียวอ่อนและโค้งงอเล็กน้อย กาบใบสีขาวนวลปนเขียวอ่อน ก้านใบยาวประมาณ ฟุต มีใบย่อยประมาณ 50 คู่ ใบย่อยยาวประมาณ 18-30 นิ้ว หมากนวลนี้ไม่มีหน่อ มีลักษณะต้นเดียวโดดๆ ทั้งต้นและใบมีความสวยงามกลมกลืนกันมาก การปลูก การใช้งาน : การดูแลรักษา แสง ต้องการแสงแดดจัด น้ำ ควรให้น้ำปานกลาง ดิน เจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้ปีละ2ครั้ง การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด

การปลูกบอนไซ


:: การเลี้ยงและดัดให้ได้รูปทรง::
ในที่นี้จะอธิบายถึงการเลี้ยงและดัดรายละเอียดให้ได้รูปทรง สำหรับต้นไทรจีนต้นนี้เป็นไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศจีนมีโคนต้นที่สวยรากออกรอบต้น แต่รายละเอียดของกิ่งไม่เหมาะสม มีกิ่งที่ยาวเกินไปไม่ได้สัดส่วน ดังนั้นจึงตัดให้สั้นลงเพื่อเลี้ยงรายละเอียดใหม่ ให้มีความสมดุลเหมาะสมกับลำต้นและต้องการเลี้ยงให้จบเร็ว ในระยะเริ่มต้น ควรเลี้ยงในกระถางที่ใหญ่ก่อน เพื่อจะให้ไม้ที่จะเลี้ยงได้ดินมาก ๆ ดินที่ใช้ปลูกควรร่วนซุย สำหรับต้นไทรนี้จะเป็นดินขุยไผ่ก็ได้ ดินควรเป็นเม็ดหากดินละเอียดจะจับตัวเป็นเนื้อเดียวกันเร็วกว่าดินที่เป็นเม็ด ดินควรมีส่วนผสมของดินเผาหรือกระถางที่ทุบให้เป็นเม็ด เพื่อจะช่วยให้ดินไม่จับตัวเป็นเนื้อเดียวกันและยังดูดซับน้ำไว้ ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา และควรตัดตุ้มไม้ให้บางจนถึงราก แต่ต้องมีรากพอสมควรหากในอนาคตเราเปลี่ยนใส่กระถางบางจะได้ไม่มีปัญหา เพราะถ้าไม่ตัดให้บางไว้แต่แรกแล้วไปตัดตุ้มให้บางในภายหลังอาจทำให้ตายได้ และไม่ควรใส่ปุ๋ยสำหรับไม้ปลูกใหม่

การปลูกพริก


พริกชี้ฟ้า
(Chilli, Spur Pepper)
ลักษณะ
ไม้ล้มลุก สูง 0.5-1.5 เมตร ใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามหรือออกสลับ รูปใบหอก กว้าง 1-4 เซนติเมตร ยาว 2-8 เซนติเมตร ดอกสีขาว ออกเดี่ยวตามซอกใบและปลายกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก ดอกห้อยลง เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 เซนติเมตร เกสรตัวผู้ 5 อัน ผลรูปทรงกระบอกยาว ปลายเรียวแหลม มักโค้งงอ ยาว 6-9 เซนติเมตร ผิวเป็นมันสีเขียว เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีแดง มีเมล็ดแบนสีนวลจำนวนมาก
การปลูก
เพาะเมล็ดให้ได้ต้นกล้าที่มีอายุประมาณ 1 เดือน ซึ่งมีความสูง 10-12 เซนติเมตร แล้วจึงย้ายลงปลูกในกระถางหรือดินที่เตรียมไว้ พริกชี้ฟ้าชอบดินร่วนซุย มีการระบายน้ำดี ถูกแสงแดดประมาณครึ่งวัน พริกชี้ฟ้าจะเจริญงอกงามได้ดี การย้ายปลูกในตอนเช้า ระยะปลูกระหว่างต้น 60 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถว 100 เซนติเมตร อายุเก็บเกี่ยว 120-160 วันหลังจากเพาะเมล็ด สามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็ทำการตัดแต่งกิ่ง พรวนดินใส่ปุ๋ย ต้นพริกก็สามารถที่จะให้ผลผลิตได้อีก

การเพาะถั่วงอก


การเพาะถั่วงอก EM
ถั่วงอกเป็นอาหารคู่ครัวของคนไทย เช่น เป็นเครื่องเคียง ก๋วยเตี๋ยว น้ำ, แห้ง, ผัดไทย, ขนมจีนน้ำยา, หอยทอด, ข้าวยำปักษ์ใต้ ฯลฯ คนไทยมีวิธีเพาะถั่วงอกหลายวิธี เช่น การใส่โอ่ง หมกทราย หมกขี้เถ้าแกลบ ใส่ปี๊ป และอีกสารพัด แต่ละวิธีก็ได้ถั่วงอกออกมาลักษณะที่แตกต่างกัน สั้นบ้าง ยาวบ้าง ผอมบ้าง หรืออวบอัด แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป บางท่านคงเคยนึกรังเกียจรากที่รุงรังของถั่วงอก ต้องเสียเวลาเด็ดทิ้ง หรือตามภัตตาคารต่างๆ เวลาจะนำมาประกอบอาหารก็ต้องเด็ดรากทิ้ง เพื่อความสวยงาม แต่วันนี้ขอนำเสนอ วิธี เพาะถั่วงอก โดยใช้อุปกรณ์ในการเพาะที่ง่ายที่สุด ถั่วงอกอวบอ้วน เก็บไว้ได้นานโดยใช้จุลินทรีย์ EM
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการเพาะถั่วงอก
ขวดพลาสติกขวดน้ำหรือขวดโค๊ก เปล่าๆ
เจาะรูที่ก้นขวด 1 รู
เมล็ดถั่วเขียวไม่อบ
นมสด และ EM
ถาดรองขวด
กระดาษห่อขวด
วิธีทำ
นำถั่วเขียวแช่น้ำร้อน 20-30 นาที
หลังจากถั่วเขียวที่แช่ไว้เย็นแล้ว รินน้ำออกใส่น้ำสะอาดลงไปและผสม EM 1-2 ฝา แล้วแช่ทิ้งไว้ 3 ชม.
แล้วนำถั่วเขียวที่แช่ไว้บรรจุขวดพลาสติกปริมาตร 1/5 ของขวดที่เราใช้เป็นภาชนะเพาะ
วางขวดลงบนภาชนะหรือถาดรอง
ขวดห่อด้วยหนังสือพิมพ์ไม่ให้แสงเข้า ซุกไว้ในที่มืด
นำ EM 2 ฝา ผสมนมสด 2 ฝา ต่อน้ำสะอาด 1 บัว แล้วคนให้เข้ากัน
นำไปใส่ขวดที่มีถั่วเขียวบรรจุอยู่ทุกๆ 4 ชม.
น้ำที่ลงมาถาดรองก็นำมาใช้ได้อีก 2 ครั้ง จึงผสมใหม่
ประมาณ 2-3 วัน ถั่วเขียวก็จะเจริญเติบโตอวบอ้วนขาวฟูเต็มขวด
ก่อนนำไปประกอบอาหารก็ตัดขวด นำถั่วงอกไปผัดได้เลย

ดอกกระเจียว






ดอกกระเจียว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cercuma alismatifolia Gagnepชื่อไทย : กระเจียว , ปทุมมา , บัวสวรรค์ ชื่อสามัญ : Siam Tulip , Patummaชื่อการค้า : Curcuma Sharome สกุลย่อย : Paracurcumaกลุ่ม : Patummaทรงต้น : คล้ายกล้วยถิ่นกำเนิด : ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ลักษณะทั่วไป : - ทรงพุ่มสูงประมาณ 55 เซนติเมตร กว้างประมาณ 50 เซ็นติเมตร ลำต้นเทียมสูงประมาณ 30 เซ็นติเมตร - ใบ กาบใบสีเขียวโคนสีแดง ก้านใบยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร ใบเป็นรูปรีค่อนข้างแคบ กว้าง 7.5 เซ็นติเมตร ยาว 32 เซ็นติเมตร แผ่นใบเรียบไม่มีขน บริเวณเส้นกลางใบอาจมีสีแดง ไม่มีเส้นลอย- ดอก ช่อดอกเกิดจากปลายลำต้นเทียม ก้านช่อดอกยาวประมาณ 50 เซ็นติเมตร ใบประดับสีเขียว บางครั้งอาจมีสีม่วงชมพูแต้มบ้าง ใบประดับไม่มีขน ขนาดกว้างประมาณ 2 เซ็นติเมตร ยาว 2.5 เซ็นติเมตร ใบประดับส่วนบนมีสีชมพูอมม่วง กว้าง 3.2 เซ็นติเมตร ยาว 5.5 เซ็นติเมตร จำนวนใบประดับส่วนบนจะแตกกันตามพันธุ์ และความสมบูรณ์ของต้น ดอกสีขาวปากสีม่วง ปากมีสันตามแนวยาว 2 สัน ด้านในของสันเป็นสีเหลือง กลีบสเตมิโนดมีสีขาวขนานกัน อับละอองเรณูป่องตลอดอัน
การขยายพันธุ์ : การเพาะเมล็ด , การแยกเหง้า , การผ่าเหง้า , การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสภาพปลูกที่เหมาะสม : ดินร่วนระบายน้ำดี อินทรีย์วัตถุสูง แสงจัด ประโยชน์ : ไม้ตัดดอก ไม้ดอกกระถาง ไม้ดอกประดับแปลงจำนวนโครโมโซม ( 2n ) : 32เวลาพร้อมผสม : 07:30 - 10:00 นาฬิกา
ประโยชน์และสรรพคุณ : ดอกกระเจียวทานได้ ให้นำดอกอ่อนมาลวกจนสุกจิ้มกับน้ำพริก หรือจะกินดอกสดก็ได้ บางบ้านนิยมนำมาทำแกงส้ม หรือไม่ก็นำมาแกล้มกับขนมจีน ลาบ ก้อย ดอกกระเจียวมีรสเผ็ดร้อน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้มดลูกอักเสบสำหรับสตรีหลังคลอด